ปักหมุด 10 จุดเช็คอินกาญจนบุรี 2024 แล้วเที่ยวฟินๆ ไปด้วยกัน

เมื่อนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ กาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักเที่ยวทุกสาย ไม่ว่าจะเป็นสายบุญ สายติสต์ สายชิลล์ และสายธรรมชาติ ต้องมีอยู่ในใจ วันนี้เรามาปักหมุด 10 จุดเช็คอินกาญจนบุรี 2024 แล้วเที่ยวฟินๆ ไปด้วยกัน  

10 จุดเช็คอิน 'กาญจนบุรี'    

1. วัดถ้ำเสือ วัดถ้ำเขาน้อย

หนึ่งในแลนด์มาร์คของกาญจนบุรีที่สายบุญต้องไม่พลาดคือ วัดถ้ำเสือ กับ วัดถ้ำเขาน้อย เพราะเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในกาญจนบุรี จุดเด่นของสองวัดนี้คือตั้งอยู่บนภูเขาที่สามารถมองเห็นแม่น้ำแม่กลอง ภูเขา และท้องทุ่งนาได้อย่างชัดเจน วัดถ้ำเขาน้อยตั้งอยู่ที่ ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง ซึ่งเป็นวัดที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมศิลปะแบบจีน และใกล้กันนั้นคือวัดถ้ำเสือที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทย จุดเด่นของวัดถ้าเสือ มีพระเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาทเป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม สูงใหญ่โดดเด่นอลังการ และมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ หลวงพ่อชินน์ประทานพร จากวัดถ้ำเสือ เราสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้แบบ 360 องศา    

2. สังขละบุรี

เมื่อได้มายืนอยู่ตรงสะพานมอญ ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่บนสะพานอูเบ็งของพม่า สังขละบุรี เมืองที่เงียบสงบฉาบด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรม มอญ พม่า และกะเหรี่ยง มีสะพาญมอญ สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเฉกเช่นเดียวกับสะพานอูเบ็งแห่งเมืองอมรปุระ เมื่อมาเที่ยวสังขละบุรี กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มิควรพลาด คือการตักบาตรยามเช้าแบบชาวมอญบนสะพาน ในทุกๆ เช้าของแต่ละวัน ชาวบ้านสังขละบุรีจะออกมาทำบุญใส่บาตร ชาวมอญจะนุ่งผ้าถุง ห่มผ้าแบบมอญ ถือภาชนะใส่ข้าวอาหาร ปัจจัยและดอกไม้ ตั้งแถวรอใส่บาตร ในซอยเล็กๆ ฝั่งหมู่บ้านมอญ ภาพที่ชาวบ้านยืนรอตั้งเเถวและก้มลงกราบพระบนพื้นถนนเป็นภาพที่สวยงามมาก หากใครอยากสัมผัสวิถีชีวิตแบบนี้ ลองตื่นเช้าสักนิด เตรียมของมาใส่บาตร พระสงฆ์จากวัดวังก์วิเวการามจะมารับบาตรประมาณหกโมงเช้าของทุกๆ วัน  พร้อมข้ามสะพานมอญเก็บภาพสวยๆ ยามเช้า นอกจากนั้นสังขละบุรียังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น วัดจมน้ำ หรือ วัดวังก์วิเวการาม ด่านเจดีย์สามองค์ เจดีย์พุทธคยา และล่องเรือชมวัดเก่าเมืองบาดาล 

3. หมู่บ้านอีต่อง

หมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยสายหมอกรอให้ทุกคนไปเยือน บ้านอีต่อง เป็นที่ตั้งของเหมืองปิล็อก ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต เมื่อราวปี พ.ศ. 2483 และความรุ่งโรจน์ของการขุดแร่ก็ได้จบลงระหว่างปี พ.ศ. 2527-2528   ปิล๊อกที่เคยรุ่งเรือง มีตลาดที่เฟื่องฟู เคยมีโรงภาพยนตร์ถึง 2 โรงก็เงียบเหงา เหมืองแร่ต่างๆ ที่นี่ทยอยปิดตัวลง คนงานเริ่มทยอยกลับบ้านแยกย้ายกันไป ปัจจุบันนี้รายได้หลักของหมู่บ้านอีต่องคือ การท่องเที่ยว ที่พักโฮมสเตย์ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบธรรมชาติ อากาศดี อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร เมืองที่ร่ำรวยด้วยหมอก ปัจจุบันเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องการมาสัมผัส ต้องเดินทางผ่าน 399 โค้ง และยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆ คือ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เนินช้างศึก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ 

4. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นจุดท่องเที่ยวระหว่างทางไปยังหมู่บ้านอีต่อง ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ที่นี่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่และพืชพรรณนานาชนิด สัมผัสความสดชื่นของไอฝนและความเขียวขจีของธรรมชาติ มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทิวเขาและเขื่อนวชิราลงกรณ์ได้อย่างสวยงาม มีน้ำตกจ๊อกกระดิ่น ไฮไลท์ของการเที่ยวของที่นี่ คือ จุดชมวิวเนินกุดดอย จุดชมวิวเนินช้างพลาย และจุดชมวิวเนินช้างศึก ที่จัดทำเป็นระเบียงยื่นออกไปสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงาม 

5. เขาแหลมสกายวอล์ค

เขาแหลมสกายวอล์ค เป็นสะพานทางเดินกระจกใส ที่ใสจนมองเห็นพื้นด้านล่าง โดยอยู่สูงจากพื้นดิน 8 เมตร และยาวประมาณ 34 เมตร จากบนนี้เราสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล รับลมเย็นธรรมชาติ พร้อมสูดอากาศสดชื่นแบบเต็มปอด บริเวณปลายสะพานยังมีม่านน้ำตกไหลลงสู่สระน้ำสวยงาม ด้านข้างยังมีสวนดอกไม้ และสไลเดอร์เนินหญ้าสำหรับให้สไลด์เล่นลงมาอย่างสนุกสนาน  

6. ถ้ำกระแซ 

ถ้ำกระแซ ตั้งอยู่ติดกับเส้นทางรถไฟสายมรณะอันเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และกล่าวกันว่า 'ไม้หมอนหนึ่งอันมีค่าเท่ากับหนึ่งชีวิต' ถ้ำกระแซเคยเป็นที่พักของเชลยศึกเมื่อครั้งสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะจากไทยไปพม่า ตัวถ้ำติดกับเส้นทางรถไฟสายกาญจนบุรี-น้ำตก เป็นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในถ้ำโปร่ง และมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ มองจากปากถ้ำมาที่บริเวณทางรถไฟจะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามและมองเห็นแม่น้ำแควน้อยอยู่เบื้องล่าง บริเวณนี้เป็นจุดที่สร้างทางรถไฟยากที่สุด เนื่องจากเส้นทางโค้งเลียบเขาบนทางรถไฟสายนี้ มีเป้าหมายหลักเพื่อใช้เป็นรถไฟสายยุทธศาสตร์ผ่านไปสู่ประเทศพม่า กล่าวกันว่าการสร้างรถไฟสายนี้เป็นไปอย่างเร่งรีบ เชลยและเหล่ากรรมกรต้องผลัดกันทำงานตลอด 24 ชั่วโมง และต้องเจอกับปัญหามากมาย ทั้งโรคระบาด ระเบิดจากทหารฝ่ายพันธมิตร การขาดเสบียง ทางรถไฟสายนี้จึงได้ชื่อว่า “ทางรถไฟสายมรณะ” เพราะตลอดระยะทาง 415 กิโลเมตรจากประเทศไทยสู่ประเทศพม่า ต้องแลกมาด้วยชีวิตเชลยจำนวนมาก 

7. แพริมน้ำ

เปลี่ยนจากการอาบแดดตามเกาะ ตามทะเล มาเที่ยวแพที่กาญจนบุรีกันดีกว่าเพราะชิลและฟิล กู๊ด ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะแพริมน้ำที่หลายคนไปมาแล้วต้องติดใจจนอยากกลับไปอีก กาญจนบุรี เมืองแห่งขุนเขาและสายน้ำของภาคตะวันตกของไทย มีที่พักดี ๆ บรรยากาศชิล ๆ ริมน้ำให้เลือกมากมาย ที่พอตื่นเช้ามาเราสามารถเปิดประตูออกมานั่งเล่นหน้าห้องเอาขาจุ่มน้ำ ว่ายน้ำกันได้ทันทีเลยทีเดียว 

8. เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124

ชวนแต่งชุดไทย ห่มสไบย้อนอดีตกลับไปที่เมืองมัลลิกา สถานที่ท่องเที่ยวที่จำลองบรรยากาศย้อนยุคของวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 

เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 ตั้งอยู่ตรงทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์ ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองกาญจน์ 32 กิโลเมตร ภายในพื้นที่ขนาด 60 ไร่ จะเป็นการนำเอาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวสยาม บริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในสมัยรัชกาลที่ 5 มาจำลองบรรยากาศให้ชม พื้นที่ภายในเมืองมัลลิกาจะมีทั้งบ้านเรือนทรงไทย ย่านร้านค้า สะพานข้ามน้ำ หอชมเมือง และยังมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่แต่งชุดไทยโบราณ ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยนั้นจริงๆ ซึ่งที่นี่ก็มีบริการชุดไทยให้เราได้แต่งกายเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศอีกด้วย  

9. สะพานข้ามแม่น้ำแคว

สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของกาญจนบุรีก็คงหนีไม่พ้น สะพานข้ามแม่น้ำแคว จุดเช็คอินที่น้กท่องเที่ยวต้องไม่พลาดเมื่อมาเยือนกาญจนบุรี 

สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ที่สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 โดยหยาดเหงื่อแรงงาน รวมทั้งชีวิตของเชลยศึกพันธมิตรนับหมื่นคน เพื่อให้ได้มาซึ่งทางรถไฟที่มีความยาวถึง 415 กิโลเมตร เริ่มต้นจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก จังหวัดราชบุรี ไปสู่ปลายทางที่เมืองตันบูซายัด รัฐมอญ ประเทศเมียนมา สำหรับใช้ลำเลียงอาวุธ และกำลังพลของญี่ปุ่น เพื่อไปโจมตีเมียนมาและอินเดีย 

10. น้ำตกเอราวัณ

หนึ่งในน้ำตกที่สวยงามติดอันดับในเมืองไทยต้องยกให้ "น้ำตกเอราวัณ" แห่งอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำตกยอดฮิตมาทุกยุคทุกสมัย

สายน้ำแห่งน้ำตกเอราวัณเป็นสีเขียวสดใสราวกับมรกตเพราะเป็นน้ำตกหินปูน ยิ่งช่วงมีการระบาดของโควิด-19 ทางอุทยานฯ มีการจำกัดนักท่องเที่ยว งดลงเล่นน้ำ ความงามของน้ำตกเอราวัณก็ยิ่งเปล่งประกาย สวยงามมากขึ้น

น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยงาม บนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ แบ่งออกเป็น 7 ชั้น ซึ่งน้ำตกชั้นที่ 7 มีลักษณะคล้ายหัวช้างเอราวัณ 3 เศียร จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ น้ำตกเอราวัณ นั่นเอง

สำหรับท่านที่ไม่ต้องการขับรถไปเที่ยวกาญจนบุรีเอง ในช่วงสภาวะโลกร้อน และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นแบบนี้ ทางทีมงาน โอเพ่น สไมล์ ทัวร์ คำนึงถึงความสะดวกสบายของท่าน และยินดีให้บริการจัดนำเที่ยวโดยรถตู้ปรับอากาศ ที่นั่งสะดวกสบาย สะอาดปลอดภัย ไปรับ-ส่งท่านตามจุดนัดหมาย ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง ไม่ว่าคุณจะสายฮา สายมู สายลุย สายคาเฟ่ หรือสายไหนก็ตาม แค่ทักมา เราพร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ เที่ยวแบบไม่ต้องเหนื่อยขับรถเอง รับ-ส่ง ถึงที่ พากิน พาเที่ยว คนขับใจดี เที่ยวกับเราถูกใจแน่นอน 

• ปรึกษาทริปชิลๆ ราคากันเอง
• ทีมงานใจดี พูดจาสุภาพ
• ขับรถปลอดภัย เทคแคร์ลูกค้าตลอดทริปการเดินทาง  

สนใจกิจกรรมไหน ติดต่อสอบถาม ทีมงาน โอเพ่น ไสมล์ ทราเวล แอนด์ เซอร์วิส ได้เลยค่ะ 

หากบทความนี้ดีต่อใจ เชิญคนที่คุณรักมาเที่ยวน่านกับโอเพ่น สไมล์ ทัวร์ กันนะคะ 

คลิกดูรายละเอียด: อัพเดททัวร์กาญจนบุรี