โปรแกรมทัวร์ กาญจนบุรี อีต่อง ไทรโยค ล่องแพ 3 วัน 2 คืน

เที่ยวหมู่บ้านอีต่อง ชุมชนในสายหมอก แดนสวรรค์ตะวันตก 

สนุกสนานกับกิจกรรมล่องแพ (รับ-ส่ง จากกรุงเทพฯ)  

ราคาเริ่มต้น ท่านละ 7,500 บาท เท่านั้น! 

รวม  1. ค่ารถรับ-ส่ง จากกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง 2. ค่าอาหาร 7 มื้อ 3. ค่าห้องพัก 2 คืน (พักอีต่อง 1 คืน+แพริมน้ำ 1 คืน) 4. ค่ากิจกรรมล่องแพ 5. ค่าบัตรเข้าชมเมืองมัลลิกา 6. ค่าประกันการเดินทาง 7. มีน้ำดื่มบริการตลอดทริป 8. มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

ไฮไลท์การเดินทาง     

• สัมผัสอากาศเย็นที่ หมู่บ้านอีต่อง ชุมชนในสายหมอก แดนสวรรค์ตะวันตก
• ถ่ายรูปสวยแบบไทยๆ เหมือนหลุดไปในอดีตที่ เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124
• เขาแหลมสกายวอล์ค ทางเดินกระจกใส แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกาญจนบุรี
• สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ วิวอลังการที่ เนินช้างศึก
• สนุกสนานกับ กิจกรรมล่องแพ ชมธรรมชาติ กระโดดน้ำลอยคอ
• ตื่นตาตื่นใจกับเส้นทางรถไฟสายมรณะที่ ถ้ำกระแซ
• ถ่ายรูป เช็คอินที่ ต้นจามจุรียักษ์ อายุกว่าร้อยปี
• ชม วัดถ้ำเสือ วัดดัง เจดีย์งาม กลางทุ่งนาเขียวขจี 

โปรแกรมการเดินทาง     

06.00 น. ทีมงานรับคณะ ณ จุดนัดหมาย กรุงเทพฯ /สนามบินดอนเมือง/สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นออกเดินทางสู่ จังหวัดกาญจบุรี โดยรถตู้ปรับอากาศ ไปสัมผัสและซึมซับบรรยากาศธรรมชาติอันสวยงามให้ธรรมชาติฟอกปอดสูดอากาศบริสุทธิ์ดีต่อใจดีต่อสุขภาพ (บริการ Set Box บนรถ)

10.00 น. นำท่านชม ต้นจามจุรียักษ์ อายุยืนยาวมากกว่า 100 ปี ขนาดของลำต้นโดยรอบประมาณ 10 คนโอบ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อ.ทองผาภูมิ

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 1)

บ่าย นำท่านชม เขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือชื่อเดิมเรียกว่า เขื่อนเขาแหลม เป็นเขื่อนหินถมดาดคอนกรีตแห่งแรกของไทย สร้างขึ้นเพื่อปิดกั้นแม่น้ำแควน้อย โดยสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2527 จากนั้นพาท่านเดินชม เขาแหลมสกายวอล์ค ทางเดินกระจกใส จุดเช็คอินแห่งใหม่ที่มาพร้อมกับความสูง 8.30 เมตร ทางเดินกระจกยาว 34 เมตร กับวิวสวยของขุนเขาอันเขียวขจี เดินรับลมเย็นจากธรรมชาติและมองผ่านกระจกใสเห็นม่านน้ำตกสุดตระการตา บริเวณด้านล่างมีสวนดอกไม้ และน้ำพุเล็กๆ ให้เดินเล่นถ่ายรูปได้อีกด้วย จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ หมู่บ้านอีต่อง

เย็น เดินทางถึง หมู่บ้านอีต่อง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขาที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี และในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของเหมืองปิล็อกและเหมืองสมศักดิ์ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต แต่เมื่อราคาแร่ทั่วโลกตกต่ำประมาณปี พ.ศ. 2527–2528 ความรุ่งโรจน์ของการขุดแร่ได้จบลง และในที่สุดเหมืองแร่ต่างๆ ที่นี่ก็ปิดตัวลงชาวบ้านทั้งคนไทยและคนพม่าที่ลงหลักปักฐานที่นี่ก็ยังคงอาศัยอยู่ ตามเดิมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันและยังคงเสน่ห์ของความเป็นเมืองเหมืองเก่าที่มีเอกลักษณ์ตรงที่ความเงียบสงบวิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย ทั้งสภาพภูมิอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี ความงามของสภาพภูมิประเทศ จึงเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย 

นำท่านเข้าสู่ที่พักแบบโฮมสเตย์ สัมผัสอากาศที่เย็นสบาย ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขา จากนั้นนำท่านขึ้นรถท้องถิ่น (4WD) เดินทางสู่ เนินช้างศึก หรือฐานปฏิบัติการช้างศึกตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 135 เพื่อชมพระอาทิตย์ตกดิน จากจุดนี้สามารถมองเห็นโรงส่งท่อก๊าซธรรมชาติที่ส่งมาจากเมืองทวาย ประเทศพม่า และชมบรรยากาศโดยรอบของหมู่บ้านอีต่อง 

ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารท้องถิ่น (มื้อที่ 2) หลังอาหาร อิสระเที่ยวชมวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้านอีต่อง จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย

07.00 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้า ร่วมทำบุญตักบาตร ตรงหน้าที่พัก  

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโฮมสเตย์ (มื้อที่ 3)

8.30 น. นำท่านเดินทางสู่ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ชมความสวยงามของน้ำตกกลางหุบขา น้ำใสไหลเย็นมองเห็นตัวปลา น้ำตกมีเพียงชั้นเดียว สูงประมาณ 34เมตร มีน้ำไหลตลอดทั้งปี จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เที่ยวชมจุดชมวิวต่างๆ จุดแรก จุดชมวิวเนินช้างเผือก จุดชมวิวถัดมาคือ จุดชมวิวเนินช้างพลาย และ จุดชมวิวเนินกูดดอย ซึ่งเป็นระเบียงยื่นออกไปในแนวผา สามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนเขาแหลมและเขาช้างเผือกได้อย่างงดงาม ชม บ้านทาร์ซาน บ้านที่สร้างบนเรือนยอดไม้

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 4)

บ่าย ผ่อนคลาย สบายๆ ด้วยการแช่น้ำร้อนที่ น้ำพุร้อนหินดาด เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งถูกค้นพบโดยทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

เย็น นำทุกท่านเดินทางเข้าที่พักแพริมน้ำ จากนั้นเป็น กิจกรรมล่องแพ หน้าที่พัก เล่นน้ำ กระโดดน้ำ ชมธรรมชาติ 

ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหาร (มื้อที่ 5) หลังอาหาร พักผ่อนตามอัธยาศัย นอนฟังเสียงน้ำไหล สัมผัสอากาศเย็นสดชื่นในช่วงเช้าและช่วงค่ำ

07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร (มื้อที่ 6)

08.00 น. เก็บสัมภาระพร้อมเช็คเอ้าท์เดินทางสู่ ถ้ำกระแซ สัมผัสทัศนียภาพโค้งสะพานทางรถไฟที่สร้างเลาะเลียบหน้าผาตระหง่านเหนือลำน้ำแควน้อย โดยเฉพาะบริเวณช่วงโค้งมรณะหรือถ้ำกระแซเราจะได้พบกับความตื่นเต้นหวาดเสียว และสัมผัสถึงความหดหู่ต่อการสร้างสะพานสายนี้ ดังคำกล่าวที่ว่า 'หนึ่งไม้หมอนเท่ากับหนึ่งชีวิต' เพราะเส้นทางรถไฟสายนี้ถูกสร้างขึ้นจากไทยไปพม่าในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีเหล่าเชลยศึกกับกรรมกรรับจ้างนับหมื่นนับแสนคนได้ล้มตายลงในระหว่างการก่อสร้างรถไฟสายนี้ จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 สถานที่ท่องเที่ยวที่จำลองเมืองในยุคสยามโบราณที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 (ค.ศ. 1873 – 1910) เรือนมัลลิกาเป็นเมืองย้อนยุคที่ฟื้นคืนวิถีชีวิตความ เป็นอยู่ของชาวไทยหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากการเลิกทาส จากนั้นเดินทางสู่ สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะสร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรที่ก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า 

12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 7) 

บ่าย นำคณะเดินทางสู่ ร้านขายของฝาก ให้ท่านเลือกอุดหนุนเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพฯ 

เย็น เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพและส่งถึงที่หมายพร้อมความประทับใจ